วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ทีมฝรั่งเศสชนะเลิศแข่งขันเบรคแดนซ์แห่งปี

ปัจจุบันการเต้นเบรคแดนซ์ในวัฒนธรรมฮิปฮอปกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีเวทีแข่งขันเพื่อประชันความสามารถ โดยการแข่งขันเบรคแดนซ์แห่งปีหรือ Battle of the Year เป็นรายการที่น่าจับตามากที่สุด ซึ่งปีนี้ทีมจากประเทศฝรั่งเศสคว้าชัยชนะเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน
จังหวะดนตรีเร้าใจประกอบลีลาการเต้นแบบ Power Move ที่หมุนตัวกลางอากาศ ใช้เพียงมือ และศีรษะรับน้ำหนักตัว เรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมทั่วสนามแข่ง ขึ้นชื่อว่าเป็นท่ายากเพราะต้องใช้พละกำลังทั้งคอ หัวไหล่ แขนและขา ก็พอพิสูจน์ความสามารถของทีม Vagabound จากประเทศเจ้าภาพฝรั่งเศส และส่งให้พวกเขาคว้ารางวัลชนะเลิศเหนือทีมคู่แข่ง Flooriorz จากญี่ปุ่น ในการดวลกันรอบสุดท้ายของการแข่งขันแบรคแดนซ์แห่งปี หรือ Battle of the Year ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 ของทีม

Battle of the Year หรือ BOTY ได้ชื่อว่าเป็นการแข่งขันเบรคแดนซ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1990 ที่ประเทศเยอรมนี โดยในปีหน้าจะกลับไปจัดที่ประเทศเยอรมนีอีกครั้ง หลังจากจัดในประเทศฝรั่งเศสมาแล้วถึง 3 ปีติดต่อกัน แม้ถูกมองว่าเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม หาก Battle of the Year ก็เป็นพื้นที่ให้วัยรุ่นได้ทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เช่น ในภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Plenet B-Boy ที่ถ่ายทอดมุมมองของผู้เข้าเเข่งขันในรายการ Battle of the Year ว่าเป็นพื้นที่ให้วัยรุ่นที่รักในการเต้นเหมือนกันได้มารวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกัน

บีบอยหรือการเต้นเบรคแดนซ์ เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมฮิปฮอปในกลุ่มวัยรุ่นแอฟริกัน-อเมริกัน และละตินอเมริกันในมหานครนิวยอร์ค เริ่มเป็นที่นิยมในปี 1970 และแพร่หลายไปทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ ฝรั่งเศส รัสเซีย บราซิลและญี่ปุ่น ในประเทศไทยมีการจัดการแข่งขันเบรคเเดนซ์ระดับชาติเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2546 และเคยมีทีมผ่านเข้ารอบสุดท้ายของการแข่งขัน Battle of the Year ถึง 2 ครั้ง คือทีม Ground Scatter Crew ในปี 2006 และ 2007 และทีม One Piece UD Town ในปี 2011

วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ประโยชน์ของกระเจี๊ยบแดง

กระเจี๊ยบแดง มีรสเปรี้ยว นำมาต้มกับน้ำ เติมน้ำตาล ดื่มแก้ร้อนใน กระหายน้ำ และช่วยป้องกันการจับตัวของไขมันในเส้นเลือดได้ และยังนำมาทำขนมเยลลี่ แยม หรือใช้เป็นสารแต่งสี ใบอ่อนของกระเจี๊ยบเป็นผักได้ หรือใช้แกงส้ม รสเปรี้ยวกำลังดี กระเจี๊ยบเปรี้ยวมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "ส้มพอเหมาะ" ในใบมี วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ส่วนกลีบเลี้ยงและกลีบดอก มีสารแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง น้ำกระเจี๊ยบแดงที่ได้สีแดงเข้ม สาร Anthocyanin นำไปแต่งสีอาหารตามต้องการ

ดินแดนแคว้นโพรวองซ์

       ได้ยินคำร่ำลือมานักว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในดินแดนอันเลื่องชื่อทางตอนใต้ของฝรั่งเศสอย่างแคว้นโพรวองซ์นั้นผันไปตามสภาพอากาศในฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งเป็นทิวยาวสุดตาและอากาศเหมาะแก่การชมทุ่งสีม่วงยังมีเมืองเล็กๆ มีหมู่บ้านตามชนบท ในขุนเขา โพรวองซ์ขึ้นชื่อเรื่องไวน์ดี อาหารอร่อย มีอารยธรรมเก่าแก่ยุคโรมัน
หากต้องการมาท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตชนบทของฝรั่งเศส ที่โพรวองซ์มาได้ที่ Le Musee de la Lavande เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์ เทียนหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ ชมขั้นตอนการปลูก ไปจนถึงเก็บเกี่ยวด้วยรถ จนนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย จนทราบว่าลาเวนเดอร์แท้นั้น มีลักษณะดอกเดี่ยว ส่วนอีกสายพันธุ์หนึ่ง ชื่อว่า ลาเวนดี้ จะมีลักษณะช่อหนึ่ง แตกออกเป็น 3 ก้าน มีกลิ่นฉุนกว่าลาเวนเดอร์ ซึ่งลาเวนดี้นั้นจะขึ้นง่าย โตเร็วกว่า ชาวบ้านจึงนิยมนำไปปลูกประดับบ้าน  นอกจากนั้นยังมีโอกาสไปเยี่ยมชม โบสถ์แอ็บบีเดอซีนอคค์ (Abbaye de Senanque) ที่มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีม่วง ปลูกเป็นแปลงสวยงามอยู่ด้านหน้า ซึ่งทุ่งดอกลาเวนเดอร์แห่งนี้จะบานสะพรั่งตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกรกฎาคม ทั้งหมดก็จะถูกเก็บเกี่ยวในวันชาติของประเทศฝรั่งเศส
ส่วนคำว่า "ลาเวนเดอร์" นั้นมาจากภาษาละติน "lavare" หมายถึง "ชำระล้าง" ซึ่งว่ากันว่าคนสมัยก่อนก็นิยมใช้พืชหอมสารพัดประโยชน์ชนิดนี้อย่างแพร่หลาย ในช่วงที่มีโรคติดต่อระบาดในกลุ่มชาวเปอร์เซียน กรีก และโรมัน พวกเขาจะนำกิ่งก้านของดอกลาเวนเดอร์มาเผาไฟ เพื่อป้องกันโรคติดต่อ และโรคระบาด

มารู้จัก ''กะหล่ำปลีม่วง'' กันเถอะ

       กะหล่ำปลีม่วงที่มีสีสันสดใสชวนกิน ซึ่งมักพบบ่อยในจานสลัด แต่ใครจะรู้บ้างว่ากะหล่ำปลีสีสวยนี้จะมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก
เนื่องจากกะหล่ำปลีม่วงเป็นพืชที่มีใยอาหารสูงและล้วนอุดมไปด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต โซเดียม และวิตามินซี นอกจากนี้การกินกะหล่ำปลีม่วงอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และโรคมะเร็งในช่องท้องได้ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็กที่ช่วยเสริมสร้างฮีโมโกลบินซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มีเม็ดเลือดแดงไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย
 อย่างไรก็ตามในแต่ละวันเราไม่ควรกินกะหล่ำปลีดิบมากเกิน 1-2 กิโลกรัม เพราะถ้ามีสาร Goitrogen จากกะหล่ำปลีสะสมในร่างกายมากเกินไป อาจส่งผลให้ต่อมไทรอยด์นำไอโอดีนในเลือดไปใช้ได้น้อยลง แต่สารนี้จะหายไปเมื่อกะหล่ำปลีนั้นสุกแล้ว

วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การดูแลผิวพรรณให้ชุ่มชื้นสดใส

    ผิวที่สัมผัสกับอากาศเย็น ทั้งจากลมหนาวหรือจากเครื่องปรับอากาศ มักจะเกิดปัญหาผิวที่แห้งแตกไม่ชุ่มชื่น นอกจากการบำรุงผิวทุกวันด้วยโลชั่นซึ่งเป็นการดูแลจากภายนอกแล้ว การสร้างความชุ่มชื่นสดใสให้ผิวพรรณจากภายในก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งวิธีที่ดีที่สุดคือ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณนั่นเอง
o   รับประทานปลาที่มีไขมันสูงอย่างแซลมอน ให้กรดไขมันโอเมก้า 3 ทำให้ผนังเซลล์ผิวหนังแข็งแรง
o    เลือกของว่างเป็นอัลมอนด์ เพราะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 โปรตีนที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์ ผิว และวิตามินอี ซึ่งเป็นสาร anti-oxidant ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ และที่สำคัญอัลมอนด์อบแบบ Natural (ไม่ปรุงรสต่าง) ยังทำให้ไม่อ้วนด้วย
o    กินผักให้หลากสี เช่น ฟักทองสีเหลือง แครอทสีส้ม ผักโขมสีเขียว พริกหวานสีแดง ล้วน อุดมด้วยแคโรทีนที่ดีต่อผิว
o    ไขมันนั้นจำเป็น ส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ผิวหนังของเราชุ่มชื่นคือ ไขมัน เพราะฉะนั้น ไม่ควรเลี่ยงการใช้น้ำมันปรุงอาหาร โดยเลือกใช้น้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมัน มะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน ให้ไขมันจำเป็นแก่ผิว ทำให้เซลล์มีความยืดหยุ่น และช่วย ให้ร่างกายดูดซึมวิตามินเอและอีได้ดีขึ้น
o    ดื่มนมไขมันต่ำ โยเกิร์ต ชีส เพราะนมอุดมด้วยวิตามินเอที่จำเป็นต่อสุขภาพผิว แบคทีเรีย ในโยเกิร์ตที่ดีต่อลำไส้และผิว 
o    โฮลเกรนมีประโยชน์เสมอ มีซีลีเนียมช่วยควบคุมความเสียหายของเซลล์ผิว 
o    ไข่ มีโปรตีนช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายจากอนุมูลอิสระ และยังมีไบโอตินช่วยปกป้อง ผิวแห้งด้วย
o    ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง อย่างส้ม มะนาว ฝรั่ง ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี และสร้างคอลลาเจนที่จำเป็นแก่ผิวพรรณ
      นอกจากอาหารเหล่านี้แล้ว อย่าลืมค่ะว่าควรพักผ่อนด้วยการนอนหลับสนิทอย่างเพียงพอ ให้ได้วันละ 6-8 ชั่วโมง ออกกำลังกายครั้งละอย่างน้อย 30 นาทีให้ได้ 3 วันต่อสัปดาห์ ขับถ่ายเป็นประจำทุกวัน และดื่มน้ำสะอาด

วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

นักเต้นฮิปฮอปชาวฝรั่งเศสใช้การเต้นสื่อสารเรื่องราวชาวผิวสี

ในอดีตจังหวะดนตรีเร้าใจผสานท่าเต้นอย่างอิสระที่เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมฮิปฮอปซึ่งเกิดจากการสร้างสรรค์ของนักเต้นผิวสี อาจถูกจำกัดว่าเป็นการเต้นบนท้องถนน และวัยรุ่นเท่านั้น แต่นักเต้นชาวฝรั่งเศสคู่หนึ่งได้ใช้การเต้นชนิดนี้ สื่อสารเรื่องราวของชาวผิวสีผ่านการแสดงร่วมสมัยจนได้รับการยอมรับผสานท่าเต้นบนพื้นแบบ Downrock ของฮิปฮอปจากท้องถนนในกรุงปารีส เข้ากับท่วงท่าแบบคลาสสิกแบบบัลเลต์ คือเอกลักษณ์ของการแสดงชุด “Vis-a-vis” ซึ่งไม่เพียงดูแปลกตากว่าการเต้นร่วมสมัยแบบอื่น ยังสะท้อนความพยายามของกลารีส โวซ์ และ อับดู แอนกงม์ ศิลปินชาวฝรั่งเศสเชื้อสายเซเนกัลที่ประยุกต์การเต้นจากวัฒนธรรมที่เขาเติบโตมาให้ถูกยอมรับ ในฐานะการแสดงศิลปะเทียบเท่ากับการเต้นอย่างบัลเลต์ และก่อตั้งคณะสตีลิสติก เพื่อทุ่มเทคิดค้นการถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก และเรื่องราวผ่านการเต้นฮิปฮอปแนวใหม่
กลารีส โวซ์ นักเต้นจากคณะสตีลิสติก กล่าวว่า นักเต้นฮิปฮอปแต่ละคนจะพัฒนาท่าจากคนที่มาเต้นประชันกัน แต่เธอ และอับดูคิดท่าเต้นจากเรื่องราว และความรู้สึกที่ต้องการสื่อ โดยใส่การเต้นคู่และสัมผัสกันอันเป็นท่วงท่าคลาสสิกของบัลเลต์ และการเต้นสมัยใหม่เข้าไป พร้อมอารมณ์ที่แสดงออกผ่านสีหน้า และมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้การแสดงแต่ละชุดยังคงมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ
ท่วงท่าที่ไม่มีรูปแบบ และกฏเกณฑ์ที่แน่นอนแต่สื่ออารมณ์นักเต้นได้อย่างชัดเจน ทั้งยังมีที่มาจากวัฒนธรรมคนผิวสีคือ จุดเด่นของการเต้นแนวฮิปฮอปที่ อับดู แอนกงม์ เลือกใช้เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การชีวิตในสังคมที่ยังคงมีการเหยียดผิว และการแบ่งแยกเชื้อชาติอยู่ ความรู้สึกสับสน ความยากลำบาก และการค้นหาตัวตน ของการอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 เชื้อชาติ 2 วัฒนธรรม ถูกถ่ายทอดอย่างลึกซึ้งผ่านการแสดงเดี่ยว “Entre deux”
อับดู แอนกงม์ นักเต้นจากคณะสตีลิสติก กล่าวว่า “Entre deux” บอกเล่าเกี่ยวกับตัวตนของเขา รวมถึงความยากลำบากในการเป็นคนผิวสีที่ต้องอาศัยอยู่ในประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิด และสิ่งสำคัญที่เขาต้องการสื่อคือ การเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหาสังคมโดยไม่ละทิ้งตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคนไป
แคลร์ คีฟ ผู้อำนวยการสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพฯ กล่าวว่า ฮิปฮอปอาจดูสมัยใหม่ และนอกกรอบเกินไปสำหรับคนรุ่นก่อน แต่การแสดงนี้ทำให้เห็นว่าฮิปฮอปก็สามารถสื่อสารผ่านท่วงท่าที่อ่อนช้อย งดงามได้เช่นกัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการนำเสนอการแสดงของฝรั่งเศสยุคใหม่ได้ดีทีเดียว  คณะสตีลิสติก ได้ตระเวนออกแสดงทั่วประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะมาเปิดการแสดงที่ทวีปเอเชียเป็นครั้งแรกในประเทศไทย หลังเสร็จสิ้นการแสดงที่กรุงเทพฯ คณะสตีลิสติกได้เดินสายไปเปิดการแสดงฮิปฮอปร่วมสมัยกับนักเต้นชาวลาวในชุด Same Same ที่ประเทศลาว และเวียดนามต่อไป

วัชพืชช่วยลดความอยากบุหรี่ “หญ้าดอกขาว”

ไม่น่าเชื่อว่าวัชพืช ที่พบได้ทั่วไปตามทุ่งหญ้า หรือข้างถนน ที่คนส่วนใหญ่มองข้าม แต่มันกลับมีประโยชน์ต่อร่างกายแบบคาดไม่ถึง นายแพทย์ สมชัย นิจพานิช อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เผยถึงประโยชน์ของ หญ้าดอกขาวว่าจากการวิจัยนั้นหญ้าดังกล่าวมีสรรพคุณช่วยลดอาการอยากสูบบุหรี่ และยังมีสารที่ช่วยดูดสารพิษออกจากปอดได้อีกด้วย หญ้าดอกขาวเป็นไม้ล้มลุกจำพวกหญ้า มีดอกสีขาวโคนเป็นสีชมพู มีขึ่นกระจายทั่วไปตามที่รกร้างข้างทาง พบได้ง่ายทั่วทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งคนส่วนใหญ่จะพบเห็นเป็นประจำ
ส่วนวิธีการนำหญ้าดอกขาวมาผลิตเป็นยานั้น ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เนื่องจากหญ้าดอกขาวเราสามารถหาได้ทั่วไป นำมาประมาณ 1 กำมือ แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด เด็ดใบเสีย หรือเหี่ยวเน่าทิ้งไป แล้วนำใส่หม้อต้มน้ำ เติมน้ำให้ท่วม ตั้งไฟทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วนำน้ำที่ได้มาดื่ม สามารถดื่มแทนน้ำเปล่าโดยค่อยๆ จิบ หรือจะดื่มเป็นมื้อๆ ก็ได้ มื้อละ 1 แก้ว ทั้งนี้ หญ้า 1 กำมือสามารถต้มซ้ำกันได้ 3 ครั้ง ไม่ควรเกินนี้ เพราะอาจจะทำให้เกิดสารพิษสะสมในร่างกายได้ ส่วนระยะเวลาในการเห็นผล อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน เนื่องจากตัวยาใน หญ้าดอกขาวนั้นจะไปเคลือบที่ต่อมรับรสของลิ้น ทำให้เวลาสูบบุหรี่ จะไม่รู้รส หรือรู้สึกฝาดๆ ลิ้นทำให้การอยากสูบบุหรี่ลดลงตามนั้นเอง นอกจากนี้การดื่มน้ำที่ต้มจากหญ้าดอกขาวยังสามารถใช้ทานแก้ปวดท้อง, ท้องขึ้นได้อีกด้วย
ทั้งนี้ นพ.สมชัย ยังกล่าวอีกว่า การทานสมุนไพร หรือตัวยาทุกชนิด ถ้าทานติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ย่อมมีสารตกค้างอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น ควรสับเปลี่ยนหมุนเวียนการทานยาสมุนไพรด้วย นอกจากจะได้สรรพคุณตัวยาหลายขนานแล้ว ยังได้สุขภาพที่ดีอีกด้วยซึ่งขณะนี้ ทางกรมการพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ทำการวิจัย และคาดว่าจะผลิตตัวยานี้ออกสู่ตลาดเร็วๆ นี้ โดยตัวยาจะผลิตเป็นแผ่นฟิล์มละลายในปาก ทั้งนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการวิจัย

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ดูแลสมอง

 ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ออกกำลังกาย แต่มักจะลืมที่จะดูแลและออกกำลังสมองของเราให้แข็งแรงปราดเปรื่อง มาเริ่มออกกำลังกายสมอง ด้วยเทคนิคง่ายๆ ให้เราสวย ฉลาด สมเป็นสาวยุคใหม่กันดีกว่า

เทคนิคทำให้สมองดี ทำได้ดังนี้
1.เริ่มด้วยการออกกำลังกายให้เป็นนิสัยทุกวันๆ อย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อช่วยให้สมองปลอดโปร่ง และทำให้เริ่มต้นการทำงานได้อย่างสดชื่น นอกจากนี้ยังลดความตึงเครียดในระหว่างการทำงานให้น้อยลงด้วย

2 อาหารอะไรก็ตามที่คุณทาน ควรจะเป็นอาหารที่ให้ใยอาหารสูง ให้ปริมาณไขมันและโปรตีนในปริมาณพอเหมาะ แนะนำให้เลือกอาหารประเภทผสมธัญพืชขัดสีน้อย เช่นเครื่องดื่มนมผสมธัญพืช ที่เป็นแหล่งของใยอาหาร อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นในการพัฒนาร่างกายและสมองด้วย อาหารอีกชนิดหนึ่งที่แนะนำก็คือ ประเภทปลาที่มีโอเมก้า 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมอง 

3.กำหนดลมหายใจเข้า-ออก แบบลึกๆ ยิ่งหายใจได้ลึกเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงสมองมากเท่านั้น และการฝึกสมาธิก็เป็นวิธีหนึ่งในการออกกำลังสมอง ให้สามารถจดจำและมีจินตนาการได้ดี

4.มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่กิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน การขีดเขียนเป็นประจำแบบนี้จะช่วยบริหารสมองไปโดยอัตโนมัติ ควรพยายามนึกและพยายามเล่าเรื่องให้ได้ใจความครบถ้วน


5.เพื่อเป็นการเพิ่มรอยหยักให้สมอง เมื่อใดก็ตามที่คุณว่าง ให้ลองหาเกมลับสมองมาเล่นดู เช่นเกมปริศนาอักษรไขว้ ต่อจิ๊กซอว์ โซดุกุ หรือหมากรุก จะช่วยให้สมองได้ทำงาน เป็นเหมือนการลับสมองให้เฉียบคมอยู่เสมอ


วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555

กินแตงโมช่วยป้องกันโรคหัวใจได้

แค่เพียงกินแตงโมชิ้นบางๆวันละชิ้น นักวิจัยมหาวิทยาลัยเปอร์ดิวของสหรัฐฯ พบว่า การกินแตงโมวันละหนึ่งชิ้นจะช่วยป้องกันโรคหัวใจ และน้ำหนักเกินได้ เพราะมันจะช่วยป้องกันการสะสมของไขมันที่เป็นอันตราย

นักวิจัยได้ศึกษากับหนูทดลองที่ถูกขุนให้กินอาหารไขมันสูง ได้ความรู้ว่า การกินแตงโมจะช่วยลดอัตราสะสมของไขมันรวมโปรตีนเลว ที่มีความหนาแน่นต่ำลงเกือบครึ่ง ไขมันเลวทำให้หลอดเลือดอุดตัน และเป็นโรคหัวใจ

ขณะที่แตงโมช่วยควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เพิ่มขึ้น และลดปริมาณไขมันที่จับอยู่ภายในหลอดเลือด และคิดว่าคุณประโยชน์ของแตงโมอาจจะเป็นเพราะสารไซตรุลไลน์ อันเป็นสารเคมีที่พบอยู่ในน้ำคั้นของมัน สารนี้เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง เกี่ยวกับการสร้างยูเรียในร่างกาย เคยมีการศึกษาพบว่ามันมีสรรพคุณป้องกันโรคหัวใจ โดยช่วยลดความดันโลหิตลงได้.

วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

HAPPY PLANET INDEX ชี้ดัชนีความสุขของไทยอยู่อันดับ20ของโลก


ดัชนีความสุขของโลก แฮปปี้ เพลนเนต อินเด็กซ์ ชี้ ไทยมีคะแนนดีขึ้นได้รับการจัดอันดับอยู่ที่ 20 ของโลก เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นโก (cnngo.com) ของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น สหรัฐอเมริกา เผยแพร่ผลสำรวจดัชนีความสุขของโลก แฮปปี้ เพลนเนต อินเด็กซ์หรือเอชพีไอ ที่จัดทำขึ้นทุกๆ 3 ปี โดยมูลนิธิเศรษฐกิจใหม่ของอังกฤษ ซึ่งผลปรากฏว่าในปี 2555 นี้ ประเทศ ไทยมีคะแนนดีขึ้นมาก ได้รับการจัดอันดับอยู่ที่ 20 ของโลก จากสถิติเดิมอันดับที่ 41 ในปี 2552 และอันดับที่ 32 ในปี 2549

สำหรับการจัดอันดับประเทศอื่นๆทั้งหมด 151 ชาติ อันดับ 1 คือ คอสตาริกา 2.เวียดนาม 3.โคลอมเบีย 4.เบลิซ 5.เอลซัลวาดอร์ 6.จาเมกา 7.ปานามา 8. นิการากัว 9.เวเนซุเอลา และ 10.กัวเตมาลา ซึ่งในอันดับท็อปเท็นนี้เป็นประเทศในภูมิภาคอเมริกากลางและอเมริกาใต้ถึง 7 ประเทศ ตามด้วยอันดับ 11.บังกลาเทศ 12.คิวบา 13.ฮอนดูรัส 14.อินโดนีเซีย 15. อิสราเอล 16. ปากีสถาน 17. อาร์เจนตินา 18.แอลเบเนีย 19.ชิลี และอันดับ 20 ไทย ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของเรา อย่าง สปป.ลาว ได้อันดับที่ 37 พม่าอันดับที่ 61 มาเลเซียอันดับที่ 84 กัมพูชาอันดับที่ 85 และสิงคโปร์อันดับที่ 90

ส่วนประเทศอื่นๆรวมถึงชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจนั้น ได้แก่ อันดับ 29 นอร์เวย์ 34.สวิตเซอร์- แลนด์ 41.อังกฤษ 45.ญี่ปุ่น 46.เยอรมนี 50.ฝรั่งเศส 51.อิตาลี 52.สวีเดน 60.จีน 62.สเปน 63.เกาหลีใต้ 78.ออสเตรเลีย และอันดับที่ 105.สหรัฐฯ ขณะที่เดนมาร์กชาติที่เคยได้รับการจัดอันดับว่ามีความสุขที่สุดในโลกโดยดัชนีความสุขของสหประชาชาตินั้น ถูกจัดอันดับอยู่ที่ 110 ต่ำกว่าอัฟกานิสถานซึ่งอยู่อันดับที่ 109 ส่วนชาติที่ได้รับการจัดอันดับว่ามีความสุขน้อยที่สุดในโลกคือ 142.แอฟริกาใต้ 143.คูเวต 144. ไนเจอร์ 145.มองโกเลีย 146.บาห์เรน 147.มาลี 148.สาธารณรัฐแอฟริกากลาง 149.กาตาร์ 150.ชาด และ 151.บอสวานา

ทั้งนี้ นายนิค มาร์ค นักวิจัยของมูลนิธิเศรษฐกิจใหม่เผยว่า การจัดอันดับครั้งนี้ใช้สูตรการคำนวณแบบใหม่ที่จะแสดงให้เห็นว่าแต่ละประเทศมีประสิทธิ-ภาพมากน้อยเพียงใดในการทำให้ประชาชนและคนรุ่นหลังอยู่อย่างสุขสบาย โดยจะคำนวณอัตราส่วนของจำนวนปีที่คนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและค่าเฉลี่ยอายุขัยของคนในประเทศ นำมาเทียบกับหน่วยการใช้ทรัพยากรที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กล่าวคือบางประเทศถึงประชากรจะมีชีวิตยืนยาวและมีความสุข แต่หากใช้ทรัพยากรที่ทำลายสิ่งแวดล้อมมาก ประเทศนั้นก็จะได้คะแนนน้อย ขณะที่บางประเทศประชากรมีความสุขปานกลางแต่ใช้ทรัพยากรน้อยก็จะได้คะแนนสูง ยกตัวอย่างไทย ที่มีค่าเฉลี่ยอายุขัย 74.1 แต่คะแนนทำลายสิ่งแวดล้อมอยู่ที่ 2.4 ขณะที่สิงคโปร์มีค่าเฉลี่ยอายุขัย 81.1 แต่คะแนนทำลายสิ่งแวดล้อมอยู่ที่ 6.1.

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

สวิสเตรียมเปิดเผยภาพคู่แฝดต้นแบบ "โมนาลิซ่า"

  นอกจากจะเป็นงานจิตรกรรมที่โด่งดังที่สุดแล้ว โมนาลิซ่ายังถือเป็นภาพวาดที่ทิ้งร่องรอยแห่งปริศนาเอาไว้มากกว่าภาพวาดใดๆ โดยล่าสุดได้มีการยืนยันการมีอยู่ของผลงานที่เชื่อว่าเป็นภาพวาดในวัยสาวของ ผู้หญิงซึ่งเป็นแบบให้กับ เลโอนาร์โด ดาวินชี รอยยิ้มปริศนาที่สร้างความหลงใหลให้กับผู้รักงานศิลปะทั่วโลกของโมนาลิซ่า กลับมาปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาวอีกคนที่แลดูอ่อนเยาว์กว่าเธอถึง 10 ปี ในภาพวาดที่รู้จักในแวดวงศิลปะว่า Isleworth Mona Lisa ซึ่งล่าสุดทางมูลนิธิโมนาลิซ่า นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ให้การยืนยันว่าเป็นผลงานที่สร้างสรรค์โดยฝีมือของ เลโอนาร์โด ดาวินชี หลังจากมีการพิสูจน์หลักฐานเป็นเวลา 35 ปี

     ผู้ค้นคว้าชี้แจงว่า Isleworth Mona Lisa ช่วยยืนยันทฤษฎีว่าดาวินชีวาดภาพโมนาลิซ่าเอาไว้ 2 ครั้ง ภาพแรกถูกเขียนขึ้นเมื่อปี 1503 ตามคำขอของฟรานเชสโก เดล โจกอนโด พ่อค้าเมืองฟลอเรนซ์ให้รังสรรค์ภาพเหมือนภรรยาของเขาผู้มีนามว่า ลิซ่า เดล โจกอนโด แต่ดาวินชีไม่ได้ส่งผลงานคืนให้กับพ่อค้า ส่วนภาพที่ผู้คนคุ้ยเคยซึ่งจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสนั้น ดาวินชี วาดขึ้นใน ทศวรรษต่อมาเพื่อมอบให้กับ จูเลียโน เดอ เมดิซี ผู้อุปถัมภ์ของเขาในปี 1517 ซึ่งสอดคล้องกับประวัติของดาวินชีผู้มักวาดภาพเดิมซ้ำกัน 2 ครั้ง เช่นการมีอยู่ 2 เวอร์ชั่นของภาพ Virgin of the Rocks
การเผยโฉมของ Isleworth Mona Lisa ได้รับการสนับสนุนจาก อเลสซานโดร เวซโซซี ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ในเมืองวินชีบ้านเกิดของจิตรกรผู้ยิ่งใหญ่ รวมทั้ง คาร์โล เปเดรตติ ผู้เชี่ยวชาญผลงานของดาวินชีชาวอเมริกันที่ยกย่องทีมค้นคว้าที่ช่วยไขความ กระจ่างแก่โลกศิลปะ แต่ยังมีนักประวัติศาสตร์ศิลป์ไม้น้อยแคลงใจต่อการยืนยันครั้งนี้ โดยเฉพาะ มาร์ติน เคมป์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ที่ชี้ว่าองค์ประกอบสำคัญหลายสิ่งในภาพซึ่งวาดบนผ้าใบ ทั้งความโปร่งแสงของผ้า, ทรงผม, โครงสร้างมือ โดยเฉพาะศีรษะ แตกต่างจากต้นฉบับซึ่งวาดบนกระดานไม้อย่างเห็นได้ชัด โดยคาดว่าภาพนี้อาจเป็นเพียงสำเนาของโมนาลิซ่าฉบับที่ศิลปินฝรั่งเศสรายหนึ่งจงใจวาดให้ผู้หญิงในภาพอายุน้อยลงเท่านั้น

ด้าน Mona Lisa Foundation ซึ่งใช้งบประมาณไปหลายล้านในการพิสูจน์นิติเวชศาสตร์และการคำนวณอายุจาก ปริมาณคาร์บอน ยืนยันว่า Isleworth Mona Lisa เกิดขึ้นในยุคของดาวินชีและชี้ว่าการสะบัดขนแปรงของโมนาลิซ่าทั้ง 2 ภาพมาจากฝีมือของจิตรกรคนเดียวกัน โดย อเลสซานโดร เวซโซซี ซึ่งร่วมในงานแถลงข่าวชี้ว่า แม้ภาพทิวทัศน์เบื้องหลังอาจตกแต่งภายหลังโดยฝีมือของศิลปินรายอื่นแต่ Isleworth Mona Lisa ก็นับเป็นภาพวาดสำคัญของวงการศิลปะ ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการสร้างความสนใจต่อสาธารณชน เพื่อนำไปสู่การร่วมกันไขความจริงครั้งนี้อย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น

งานเทศกาลว่าวยักษ์ซางามิ

    การเล่นว่าวในญี่ปุ่นนั้นมีหลายแห่ง  แต่ว่าวที่เป็นสี่เหลี่ยมสามารถถอดกระดาษออกมาประกอบใหม่ได้และใหญ่ที่สุดในโลกมีแค่ที่ซางามิเท่านั้นเป็นประเพณีโบราณที่สืบทอดภูมิปัญญาและวัฒนธรรมซึ่งมีมานานถึง180ปี   

งานเทศกาลว่าวยักษ์ซางามิจัดขึ้นมาเพื่ออนุรักษ์โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 4-5 พฤษภาคม ของทุกปี ทุกคนที่ทำว่าวจะต้องเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันเท่านั้น มีจำนวนคนในการทำถึง 500 คนเลยทีเดียว มีวัสดุในการทำว่าวคือไม้ไผ่ กระดาษญี่ปุ่นจำนวน 16 แผ่น เชือกปานชนิดพิเศษ 73 เส้น ใช้เวลาทำกันเกือบปี ก่อนที่จะปล่อยว่าวขึ้นสู้ท้องฟ้าก็จะมีการทำพิธีขอพรให้ว่าวลอยขึ้นไปได้โดยไม่มีอุปสรรค์ กว่าว่าวยักษ์จะลอยขึ้นฟ้าได้ต้องใช้ความร่วมแรงร่วมใจ ความพยายาม และภูมิปัญญาจากคนในชุมชน ว่าวจึงไม่ใช่แค่การละเล่นแต่เป็นสัญลักษณ์ของการขอพรเพื่อผู้คนและประเทศชาติรวมทั้งแสดงความสามัคคีที่น่าชื่นชม

วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555

' แมคโดนัสด์ ' เตรียมเปิดร้านอาหารฟาสต์ฟูดปลอดเนื้อสัตว์ในอินเดีย

        เพื่อเอาใจลูกค้าที่เป็นทั้งชาวฮินดูที่ไม่ทานเนื้อวัว และชาวมุสลิมที่ไม่ทานหมูสามารถมาใช้บริการได้ ' แมคโดนัสด์ ' เครือร้านอาหารจานด่วนที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก มีแผนจะเปิดร้านอาหารฟาสต์ฟูด "ปลอดเนื้อสัตว์" สำหรับมังสวิรัติ ภายใต้ชื่อแบรนด์ของตนเองเป็นแห่งแรกที่ประเทศอินเดีย เนื่องจากชาวอินเดียส่วนมากไม่รับประทานเนื้อสัตว์ จึงเป็นการทำเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค 
          แมคโดนัสด์ต้องการขยายขอบเขตลูกค้าลงสู่ระดับท้องถิ่น ที่ชาวอินเดียจำนวนมากนับถือศาสนาฮินดู โดยชาวฮินดูนับถือวัวว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อวัว ขณะที่ชาวมุสลิมอินเดียก็มีหลักศาสนาว่า หมูเป็นสัตว์สกปรกจึงหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อหมู การเปิดร้านอาหารปลอดเนื้อนี้สามารถทำให้ลูกค้าทั้งสองกลุ่มเข้ามาใช้บริการได้จะเปิดที่วิหารทองคำ ในเมืองอมฤตสาร์ เมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวซิกข์ ในรัฐปัญจาบ และตามหลักศาสนาของชาวซิกข์ ห้ามบริโภคเนื้อสัตว์ในวัดเด็ดขาด

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สมองสำคัญต่อเราแค่ไหน กับ หนูดี วนิษา เรซ

   สมองคือสิ่งมีชีวิตที่ขยันบางครั้งก็ขี้เกียจ  เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่เคยอยู่นิ่ง  เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลงก็ได้อยู่ที่ว่าเราปฏิบัติกับเขายังไง  หน้าที่ของสมองคือการทำให้เรามีชีวิตอยู่รอดได้นานที่สุดถ้าเราตายเขาก็ไม่มีประโยชน์กับเราอีก  ในสมองจะมีอวัยวะอยู่ลึกๆเรียกว่า Amygdala เล็กมาก มีหน้าที่ในการคิดอย่างสับซ้อนประเมินสิ่งต่างๆตลอดเวลา  จะเกิดขึ้นเมื่อเราอยู่ในอารมณ์กลัวโกรธอย่างรุนแรงใกล้ความเป็นความตายทำให้เกิดฮอร์โมน หรือพลังงาน เจ้าตัว Amygdala นี้จะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อถูกกระตุ้นสามารถทำให้เราทำในเรื่องที่คาดไม่ถึงได้ 
     สมองสามารถใช้งานได้จนถึงอายุ ๑๐๐ ปีขึ้นไป  ถ้าอยากมีสมองที่สดใสควรนอนประมาณ ๔ ทุ่ม เพื่อให้สมองได้มีโอกาสจัดระเบียบข้อมูลที่รับมา ช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น การทำอะไรซ้ำ ๆ การอ่านหนังสือ การจดบันทึกทำให้สมองของเราพัฒนาได้ดีขึ้นทำให้เรามีสติ  อัจฉริยะสามารถพัฒนาได้ทุกวัน  การออกกำลังกาย คือ การพัฒนาสมองที่ง่ายที่สุด  ทุกวันนี้เด็กดูทีวี ๑ ชั่วโมง มีโอกาสเป็นเด็กสมาธิสั้น ๑๐ เปอร์เซ็นต์  อย่าเอาเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์มานอนด้วย มันอันตรายต่อสมอง เช่น มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเลต 
สมองสามารถเชื่อมต่อความรู้สึกกับสิ่งรอบตัวได้ ถ้าเราสามารถควบคุมสมองได้  นั้นคือคุณสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างแน่นอน  

Eurostar

  เป็นรถไฟความเร็วสูงที่ให้บริการในยุโรปตะวันตก เชื่อมต่อระหว่างลอนดอนและเคนท์ ในสหราชอาณาจักร กับปารีสและลิลล์ในฝรั่งเศส และบรัสเซลส์ ในเบลเยี่ยม นอกจากนั้นยังให้บริการจากลอนดอนไปยัง ดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท ในปารีส และอีกหลายจุดหมายปลายทางตามแต่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว โดยวิ่งผ่านอุโมงค์รถไฟลอดใต้พื้นทะเลช่องแคบอังกฤษ ที่เรียกว่า Channel Tunnel  หรือ 'Chunnel' และฝรั่งเศส 
  
    ยูโรสตาร์เป็นขบวนรถไฟจำนวน 18 โบกี้ วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (186 ไมล์ต่อชั่วโมง) สร้างโดยบริษัทอัลสธอม ประเทศฝรั่งเศส โดยใช้เทคโนโลยีของ TGV ในการพัฒนา เริ่มให้บริการในปี พ.ศ. 2537 โดยได้มีการปรับปรุงทางรถไฟใหม่ที่ประเทศเบลเยี่ยม และทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ เพื่อรองรับขบวนรถไฟที่ทำความเร็วสูง เป็นมาตรฐานเดียวกับ TGV รถไฟความเร็วสูงที่ใช้มาอยู่ก่อนแล้วที่ประเทศฝรั่งเศส และย่นเวลาการเดินทางระหว่างประเทศ โดยจากลอนดอน ถึง บรัสเซล ระยะทาง 371 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 43 นาที และจาก ลอนดอน ถึง ปารีส ระยะทาง 492 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 15 นาที
ในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ลอนดอน เกมส์ 2012
     ผู้ใช้บริการรถไฟยูโรสตาร์มากขึ้น ส่งผลดีต่อผลกำไรของบริษัทยูโรทันเนล (Eurotunnel)ทางบริษัทได้เตรียมความพร้อม เพื่อรองรับช่วงเวลาดังกล่าว ด้วยการเพิ่มความเร็วของรถไฟ และระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ในการให้บริการแก่ผู้โดยสารสำหรับผลประกอบในช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทยูโรทันเนลนั้น เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 14 คิดเป็นมูลค่ากว่า 473 ล้านยูโร ขณะที่รายได้จากการขนส่งโดยใช้รถไฟยูโรสตาร์ก็เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 เช่นเดียวกัน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวถือว่าเป็นผลประกอบการที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากปัจจุบันนี้ ยูโรสตาร์ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งรายใหญ่เป็นจำนวนมาก  ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่มีการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 มีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟยูโรสตาร์สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผลกำไรของบริษัทเพิ่มมากขึ้น

วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การค้าทาส



    แต่เดิมเรือเดินสมุทรในทวีปยุโรปต่างมุ่งหน้าสู้ทวีปแอฟริกาเพื่อค้นหาทองคำ แต่แล้วในคริสต์ศักราชที่หนึ่งพันสี่ร้อยสี่สิบเอ็ด เรือโปรตุเกสก็ได้บรรทุกสินค้าชนิดใหม่กลับสู่ยุโรปเป็นครั้งแรกนั้นคือทาสชาวแอฟริกันจำนวนสิบคน ไม่นานชายหาดทองคำที่ทอดยาวตลอดแอฟริกาตะวันตกก็ได้รับฉายยาใหม่ว่า หาดค้าทาส เรือค้าทาสที่บ่ายหน้าออกจากยุโรปมักเต็มไปด้วยสินค้าอย่างแท่งเหล็กหรือทองแดง ปืน เสื้อผ้า รวมทั้งเหล่าไวน์และบรั่นดี ทั้งหมดนี้จะถูกเสนอให้กับบรรดาเจ้าเมืองชาวแอฟริกันเพื่อแลกเปลี่ยนกับทาสพื้นเมืองในจำนวนที่เหมาะสมก่อนนำทาสที่ได้กลับมาประมูลขายในยุโรปหรืออเมริกา บันทึกระบุว่าการเดินเรือค้าทาสหนึ่งรอบ ซึ่งจะใช้เวลาหนึ่งปีจะให้ผลตอบแทนสูงถึงสามร้อยห้าสิบเปอร์เซ็นของเงินลงทุนเลยทีเดียว
   การค้าทาสและแรงงานทาสทำให้หลายประเทศในยุโรปร่ำรวยขึ้นได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลานั้น เมืองบอร์โดเป็นเมืองท่าตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงของจังหวัดฌีรงด์และของแคว้นอากีแตน ได้กลายเป็นตลาดค้าทาสที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส ต่อมาก็ได้มีการกำหนดวันรำลึกการค้าทาสในฝรั่งเศส
    ค่ะและทั้งหมดนี้เป็นการเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีตหากย้อนไปมองประวัติศาสตร์ของมนุษย์คงยากที่จะพูดได้อย่างชัดเจนนะค่ะว่าความคิดได้นำสิ่งใดมาสู่โลกของเรามากกว่ากันระหว่างรอยยิ้มและคราบน้ำตา ความสุขสบายเพื่อตอบสนองความต้องการแลกมาด้วยอะไรบ้างแสดงถึงความแตกต่างทางเศรษฐกิจของประเทศที่ร่ำรวยและยากจนขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานของชีวิตในสมัยก่อน