หากต้องการมาท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตชนบทของฝรั่งเศส
ที่โพรวองซ์มาได้ที่ Le Musee de la Lavande เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์
เทียนหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ ชมขั้นตอนการปลูก ไปจนถึงเก็บเกี่ยวด้วยรถ
จนนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย จนทราบว่าลาเวนเดอร์แท้นั้น
มีลักษณะดอกเดี่ยว ส่วนอีกสายพันธุ์หนึ่ง ชื่อว่า ลาเวนดี้ จะมีลักษณะช่อหนึ่ง
แตกออกเป็น 3 ก้าน มีกลิ่นฉุนกว่าลาเวนเดอร์ ซึ่งลาเวนดี้นั้นจะขึ้นง่าย
โตเร็วกว่า ชาวบ้านจึงนิยมนำไปปลูกประดับบ้าน
นอกจากนั้นยังมีโอกาสไปเยี่ยมชม
โบสถ์แอ็บบีเดอซีนอคค์ (Abbaye de
Senanque) ที่มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีม่วง
ปลูกเป็นแปลงสวยงามอยู่ด้านหน้า
ซึ่งทุ่งดอกลาเวนเดอร์แห่งนี้จะบานสะพรั่งตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกรกฎาคม
ทั้งหมดก็จะถูกเก็บเกี่ยวในวันชาติของประเทศฝรั่งเศส
ส่วนคำว่า "ลาเวนเดอร์" นั้นมาจากภาษาละติน
"lavare" หมายถึง "ชำระล้าง"
ซึ่งว่ากันว่าคนสมัยก่อนก็นิยมใช้พืชหอมสารพัดประโยชน์ชนิดนี้อย่างแพร่หลาย
ในช่วงที่มีโรคติดต่อระบาดในกลุ่มชาวเปอร์เซียน กรีก และโรมัน
พวกเขาจะนำกิ่งก้านของดอกลาเวนเดอร์มาเผาไฟ เพื่อป้องกันโรคติดต่อ และโรคระบาด