เนื่องจากกะหล่ำปลีม่วงเป็นพืชที่มีใยอาหารสูงและล้วนอุดมไปด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด
ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต โซเดียม และวิตามินซี
นอกจากนี้การกินกะหล่ำปลีม่วงอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และโรคมะเร็งในช่องท้องได้
อีกทั้งยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็กที่ช่วยเสริมสร้างฮีโมโกลบินซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มีเม็ดเลือดแดงไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่าง
ๆ ในร่างกาย
อย่างไรก็ตามในแต่ละวันเราไม่ควรกินกะหล่ำปลีดิบมากเกิน 1-2 กิโลกรัม เพราะถ้ามีสาร Goitrogen จากกะหล่ำปลีสะสมในร่างกายมากเกินไป
อาจส่งผลให้ต่อมไทรอยด์นำไอโอดีนในเลือดไปใช้ได้น้อยลง
แต่สารนี้จะหายไปเมื่อกะหล่ำปลีนั้นสุกแล้ว