วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

นักเต้นฮิปฮอปชาวฝรั่งเศสใช้การเต้นสื่อสารเรื่องราวชาวผิวสี

ในอดีตจังหวะดนตรีเร้าใจผสานท่าเต้นอย่างอิสระที่เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมฮิปฮอปซึ่งเกิดจากการสร้างสรรค์ของนักเต้นผิวสี อาจถูกจำกัดว่าเป็นการเต้นบนท้องถนน และวัยรุ่นเท่านั้น แต่นักเต้นชาวฝรั่งเศสคู่หนึ่งได้ใช้การเต้นชนิดนี้ สื่อสารเรื่องราวของชาวผิวสีผ่านการแสดงร่วมสมัยจนได้รับการยอมรับผสานท่าเต้นบนพื้นแบบ Downrock ของฮิปฮอปจากท้องถนนในกรุงปารีส เข้ากับท่วงท่าแบบคลาสสิกแบบบัลเลต์ คือเอกลักษณ์ของการแสดงชุด “Vis-a-vis” ซึ่งไม่เพียงดูแปลกตากว่าการเต้นร่วมสมัยแบบอื่น ยังสะท้อนความพยายามของกลารีส โวซ์ และ อับดู แอนกงม์ ศิลปินชาวฝรั่งเศสเชื้อสายเซเนกัลที่ประยุกต์การเต้นจากวัฒนธรรมที่เขาเติบโตมาให้ถูกยอมรับ ในฐานะการแสดงศิลปะเทียบเท่ากับการเต้นอย่างบัลเลต์ และก่อตั้งคณะสตีลิสติก เพื่อทุ่มเทคิดค้นการถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก และเรื่องราวผ่านการเต้นฮิปฮอปแนวใหม่
กลารีส โวซ์ นักเต้นจากคณะสตีลิสติก กล่าวว่า นักเต้นฮิปฮอปแต่ละคนจะพัฒนาท่าจากคนที่มาเต้นประชันกัน แต่เธอ และอับดูคิดท่าเต้นจากเรื่องราว และความรู้สึกที่ต้องการสื่อ โดยใส่การเต้นคู่และสัมผัสกันอันเป็นท่วงท่าคลาสสิกของบัลเลต์ และการเต้นสมัยใหม่เข้าไป พร้อมอารมณ์ที่แสดงออกผ่านสีหน้า และมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้การแสดงแต่ละชุดยังคงมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ
ท่วงท่าที่ไม่มีรูปแบบ และกฏเกณฑ์ที่แน่นอนแต่สื่ออารมณ์นักเต้นได้อย่างชัดเจน ทั้งยังมีที่มาจากวัฒนธรรมคนผิวสีคือ จุดเด่นของการเต้นแนวฮิปฮอปที่ อับดู แอนกงม์ เลือกใช้เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การชีวิตในสังคมที่ยังคงมีการเหยียดผิว และการแบ่งแยกเชื้อชาติอยู่ ความรู้สึกสับสน ความยากลำบาก และการค้นหาตัวตน ของการอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 เชื้อชาติ 2 วัฒนธรรม ถูกถ่ายทอดอย่างลึกซึ้งผ่านการแสดงเดี่ยว “Entre deux”
อับดู แอนกงม์ นักเต้นจากคณะสตีลิสติก กล่าวว่า “Entre deux” บอกเล่าเกี่ยวกับตัวตนของเขา รวมถึงความยากลำบากในการเป็นคนผิวสีที่ต้องอาศัยอยู่ในประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิด และสิ่งสำคัญที่เขาต้องการสื่อคือ การเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหาสังคมโดยไม่ละทิ้งตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคนไป
แคลร์ คีฟ ผู้อำนวยการสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพฯ กล่าวว่า ฮิปฮอปอาจดูสมัยใหม่ และนอกกรอบเกินไปสำหรับคนรุ่นก่อน แต่การแสดงนี้ทำให้เห็นว่าฮิปฮอปก็สามารถสื่อสารผ่านท่วงท่าที่อ่อนช้อย งดงามได้เช่นกัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการนำเสนอการแสดงของฝรั่งเศสยุคใหม่ได้ดีทีเดียว  คณะสตีลิสติก ได้ตระเวนออกแสดงทั่วประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะมาเปิดการแสดงที่ทวีปเอเชียเป็นครั้งแรกในประเทศไทย หลังเสร็จสิ้นการแสดงที่กรุงเทพฯ คณะสตีลิสติกได้เดินสายไปเปิดการแสดงฮิปฮอปร่วมสมัยกับนักเต้นชาวลาวในชุด Same Same ที่ประเทศลาว และเวียดนามต่อไป