เมื่อใดที่เครียด เหนื่อย หรืออ่อนเพลีย
เราจะรู้สึกว่าร่างกายต้องการน้ำตาลเพื่อทำให้รู้สึกสดชื่น มีแรง และอารมณ์ดีขึ้น คุณจะรู้สึกมีพลังพร้อมกลับมาทำงานได้ใหม่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม
คำเตือนก็คือคุณไม่ควรกินอาหารหวานหรือน้ำตาลมากจนเกินไปเพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ " น้ำตาลที่มากเกินกว่าความจำเป็นของร่างกายจะถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมในร่างกาย
ส่งผลให้เกิดปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา" ผู้หญิงหลายคนถึงกับบอกว่าถ้าวันไหนไม่ได้กินของหวาน
จะอยู่ไม่ได้เลยทีเดียว ถ้าอยากรู้ว่าตัวเองติดน้ำตาลจริงไหม ให้ลองสังเกตดูว่าถ้าวันไหนไม่ได้กินของหวานแล้วคุณรู้สึกอย่างไร
- กินอย่างไรให้ชีวิตไม่ติดหวาน
- คุณอาจคิดว่าตัวเองติดน้ำตาล แต่จริงๆ
แล้วไม่ใช่หรอก ร่างกายก็ไม่ได้ต้องการน้ำตาลมากขนาดนั้น วิธีที่เราขอแนะนำคือ ไม่จำเป็นต้องกินของหวานในทุกๆ
มื้อ ถ้ารู้สึกหิวแนะนำให้กินผลไม้รสไม่หวานจัด เช่น ฝรั่ง หรือแอปเปิลซักลูก
ควรหลีกเลี่ยงอาหารหรือขนมที่มีรสหวานจัด หรือถ้าหิวมากๆ
อาจดื่มนมไขมันต่ำรสจืดสักแก้ว หรือโยเกิร์ตชนิดปราศจากน้ำตาลก็ช่วยได้
- ลดปริมาณน้ำตาลเวลาชงกาแฟหรือเครื่องดื่มอื่นๆ
ที่คุณชงดื่มเอง หรือเวลาไปสั่งเครื่องดื่มตามร้านต่างๆ ที่แม้ค้าชงให้
ซึ่งปกติจะใส่ทั้งนมข้นหรือน้ำเชื่อมเป็นช้อนๆ ก็อย่าลืมรีบสั่งเป็นแบบหวานน้อย
ลองค่อยๆ ปรับทีละนิด ลิ้นและร่างกายของคุณก็จะเริ่มปรับตัวและชินกับรสที่ไม่หวาน
เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก
คุณจะแปลกใจว่าเคยกินอาหารที่มีน้ำตาลหรือความหวานมากขนาดนั้นได้อย่างไร
- เลือกดื่มน้ำเปล่า แทนน้ำหวานต่างๆ
- เลือกกินอาหารที่มีไฟเบอร์ โดยเฉพาะผักผลไม้ ธัญพืช
- อ่านฉลากก่อนซื้อผลิตภัณฑ์อาหาร
เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลน้อยๆ